รวมคำศัพท์ SEO และ SEM ที่สำคัญ 5 ศัพท์เฉพาะ

adminMay 27, 2020February 24, 2021

รวมคำศัพท์สำหรับนัก SEO และ SEM ที่ใช้กันบ่อย 5 คำศัพท์เฉพาะ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

Backlink

คำนี้พูดได้เลยว่าเราเจอกันบ่อยมากสำหรับนักทำ SEO หรือผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นทำ SEO โดย Backlink ก็คือการที่เว็บอื่นหรือเว็บของเราเองได้ทำการเชื่อมโยงมาที่เราผ่านลิ้งค์ โดยจะแยกออกเป็น Inbound link คือ ลิงก์ขาเข้า และ Outbound link คือ ลิงก์ขาออก โดยในเว็บไซต์ 1 เว็บไซต์สามารถที่จะทำได้ทั้ง 2 แบบนั่นคือ Inbound link และ Outbound link

Alt text

Alt text ย่อมาจาก Alternative text ( อ่านว่า อัลเทอเนธีฟ เท็กส์ ) ความหมายของมันก็คือการอธิบายรูปภาพรูปภาพหนึ่งให้กูเกิลได้เข้าใจ เพราะกูเกิลจะไม่สามารถมองสิ่งของสิ่งนั้นได้ด้วยตาเปล่าเหมือนกับเราจึงจำเป็นต้องอ่านคำอธิบายนี้เพื่อให้เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น รูปผึ้ง เราก็สามารถใส่ Alt text ว่า bee เพื่อให้กูเกิลเข้าใจนั่นเอง

Crawling

เครื่องมือค้นหาจะค้นพบเว็บเราแล้วนำไปเก็บ Index เพื่อรอแสดงผลในการสืบค้นข้อมูล ดังนั้นวิธีการ crawling ก็คือการที่บอทกูเกิลเข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ที่เราต้องการ

Organic SEO

คือการติด SEO ด้วยวิธีธรรมชาติ ( ผุด ๆ ) นั่นเป็นเพราะว่าการทำให้ติดหน้ากูเกิลในปัจจุบันมีหลายวิธี เช่นการซื้อโฆษณาอย่าง Google Ads หรือการปั่นด้วยวิธีไม่ธรรมชาติทาง SEO หรือที่เรียกว่า สแปม ซึ่งวิธีดังกล่าวนี้ ทางผมจำไม่แนะนำเพราะกูเกิลออกาลิทึมได้มีการพัฒนาไปอย่างมาก หากกูเกิลตรวจเจอว่าเว็บไซต์ดังกล่าวใช้วิธีผิดธรรมชาติก็จะโดนกูเกิลแบนสถานเดียว คือ อันดับตก หรืออันดับหายไปจากหน้าการค้นหา ( Sandbox )

Spam Score

หากเราใช้บริการ Moz อย่าง Moz bar เราจะพบว่ามี spam score คอยบอกเราด้วยว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีคะแนนสแปมเท่าไร โดย Spam Score ที่ว่านั้นหมายถึงเว็บดังกล่าวมีโอกาสที่จะโดนลงโทษจาก Google มากน้อยแค่ไหน

รับสอน SEO ตัวต่อตัว

มาถึงทางฝั่ง SEM กันบ้าง

Top of Page Rate

เป็นค่าตัวเลขที่บ่งบอกถึงการที่เราปรากฏในตำแหน่งอันดับ 1 บนหน้ากูเกิลวัดตามจำนวนครั้งแล้วตีออกมาเป็น %

Impression Share

เป็นค่าวัดบอกจำนวนครั้งโดยตีเป็น % เพื่อให้เราประเมินได้ง่าย เช่น ค่า Impression share ขึ้นว่า 70% หมายถึงแคมเปญของเรามีการค้นหาปรากฏเพียง 70 ครั้งในจำนวน 100 ครั้ง

Position Above Rate

ค่านี้ใช้เมื่อเราต้องการจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งเช่น Position above rate 3% นั่นหมายความว่ามีเพียง 3 ครั้งจาก 100 ครั้งเท่านั้นที่ตำแหน่งโฆษณาของเราจะสู้คู่แข่งไม่ได้ ( คือตำแหน่งโฆษณาของเราอยู่ใต้คู่แข่งนั่นเอง )

CPC (Cost Per Click)

CPC (Cost Per Click) คือราคาที่ผู้ลงโฆษณากำหนดเอาไว้ โดยเมื่อมีคนคลิกเข้าไปดูโฆษณาของเราที่ปรากฏในรูปแบบ ads เราต้องมีการเสียเงินให้กับทางกูเกิลเป็นจำนวนเงินต่อคลิก

CPM (cost per thousand impressions)

ราคาจะขึ้นอยู่กับ Google กำหนด แต่สิ่งที่แตกต่างจาก CPC คือ CPM เราจะจ่ายเงินให้กับ Google ก็ต่อเมื่อมีคนเห็นโฆษณาของเราครบ 1000 ครั้งเท่านั้น โดยไม่ได้นับตามจำนวนคลิก